วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โรค SLE





 ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=c9kmJ95tBxM&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R

 บรรยายโดย ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)
      SLE  ก็เท่ากับน้อง ๆ มะเร็ง เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายมีพิษมาก ๆ เมื่อร่างกายมีพิษมาก ๆ พิษก็จะเข้าไปทำลายเซลล์ให้ผิดรูปไปจากเดิม กล้ามเนื้อเกร็งตัวบีบออกมันก็บิดเบี้ยวแล้ว พลังงานที่เป็นพิษก็ไปทำลายเซลล์ พิษที่เกิดขึ้นในเซลล์ก็ทำให้เซลล์นั้นผิดรูป พอผิดรูปปุบยังไม่ถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอก แต่เม็ดเลือดขาวเข้าใจผิดว่าไม่ใช่ร่างกายตัวเอง ก็เลยไปทำลาย เค้าเรียกว่าภูมิคุ้มกันตัวเองทำร้ายตัวเอง โรคพุ่มพวงน่ะ พอไปทำลายปุบเป็นไง พอเม็ดเลือดขาวไปทำลาย ตัวเองทำร้ายตัวเอง ตัวเองก็เสื่อมไปเรื่อย ๆ วิธีแก้ก็ไม่ยาก พุทธเจ้าบอกดับทุกข์ดับที่เหตุ ระบายพิษออก ใส่สมดุลร้อนเย็นเข้าไป กล้ามเนื้อคลายตัว สิ่งที่สมดุลร้อนเย็น วิญญาณของเราดูดเข้าไป กล้ามเนื้อคลายตัวแล้วเลือดลมก็ไหลเวียนสะดวกแล้ววิญญาณก็ดูดสิ่งที่สมดุลร้อนเย็นไปเลี้ยงเซลล์ของเรา เมื่อไปเลี้ยงเซลล์ของเราก็อยู่ในสภาพที่ปรกติ เมื่อเนื้อเยื่ออยู่ในสภาพที่ปกติ เม็ดเลือดขาวก็เข้าใจแล้วว่า นี่เป็นเซลล์ปกติไม่ใช่เซลล์ที่ผิดปกติ เม็ดเลือดขาวเหล่านี้ก็ไม่ไปทำลาย พอไม่ทำร้าย SLE ก็หาย 
     มีผู้ป่วยจำนวนมากที่มาใช้วิธีการของเรา SLE ก็หายหยุดการใช้ยาไปเลย พอร่างกายดีขึ้นหยุดใช้ยา หยุดสเตียรอยไปเลย ยิ่งไปฉายแสงไปเคมีบำบัด เซลล์ยิ่งผิดรูปไปใหญ่ พอยิ่งผิดรูปไปใหญ่ แต่แรก ๆ เม็ดเลือดขาวจะไม่ไปทำร้าย เพราะแค่สารเคมีทำร้ายก็จะแย่อยู่แล้ว เม็ดเลือดขาวก็จะตายอยู่แล้ว เม็ดเลือดขาวไม่ไปทำลายเซลล์เราหรอก เพราะตัวเองยังเอาตัวไม่รอด หมอก็จะบอกว่ามันหยุดทำร้ายเซลล์ตัวเองแล้ว แต่เคมีทำร้ายเซลล์ยิ่งกว่าเม็ดเลือดขาวไปทำร้ายเซลล์อีก  แต่เมื่อใดที่ร่างกายเริ่มฟื้นขึ้นมาเซลล์ผิดปกติไปหมด เม็ดเลือดขาวแข็งแรงขึ้นมา เม็ดเลือดขาวจะไปจัดการกับเซลล์ที่ผิดปกติ มีกรณีในวิทยานิพนธ์ ผู้ป่วยท่านนี้เป็น SLE กินสเตียรอย ให้เคมีบำบัด มีอาการปวดตามร่างกายอย่างรุนแรง จึงมาเข้าค่าย อาการทุเลาอย่างมากภายใน 5 วันปฏิบัติ 6 เดือน ร่างกายดีขึ้นมาก จึงทำงานหนักเกิน แพทย์ระบุไตวายต้องฟอกไตหรือให้เคมีบำบัด ผู้ป่วยปฏิเสธ กลับมาปฏิบัติตัวเคร่งครัดแบบค่าย 1 สัปดาห์ กลับไปตรวจแพทย์ระบุ ไตดีขึ้นแล้วไม่ต้องฟอก


กรณีตัวอย่างที่ ๑
แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
แชร์ประสบการณ์ ภาวะร่างกายไม่สมดุลแบบร้อนเกิน

โรคความSLE ลงไต
อนุโมทนาบุญ กับคุณPiman Diregsilp 

ในการแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้


 
       สวัสดีครับ ขอแชร์ประสบการณ์ แฟนผมป่วยเป็นโรค SLE ลงไต ครับ ซึ่งคุณหมอโรงบาล จุฬา จะนัดแฟนผมไป ตรวจทุกเดือนครับ ทีนี้คุณหมอต้องให้เคมี ถึง สามครั้ง แต่ผมไม่ให้แฟนไปให้เคมี ตามที่หมอสั่งครับ ค่าไตแฟนผมตอนนั้น รั่วถึง ระดับ 4 ซึ่งหมอบอกว่ามันอักเสบเลยต้องให้เคมีครับ 
       ผมได้พาแฟนไปเข้าค่าย 1 วัน ในวันที่ 8 กันยายน 2556 ที่สมุทรสาคร ครับ และได้กลับมาประฎิบัติตัวตามที่ได้อบรมจากทีมงานหมอเขียวครับ แต่ได้ใช้วิธีแค่ -กินน้ำโครโรฟิว -ทำดีท็อก กับปรับเรื่องอาหารบ้าง ไม่กินรสจัดและเน้นไปทางผักครับ 
       ทำแค่นี้ครับ เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์กว่าๆ วันนี้ แฟนผมได้ไปตรวจตามนัดที่โรงบาลจุฬาครับ แต่ผลการรั่วในไต ลดลง 
เหลือ 2 ครับ แต่หมอที่จุฬาบอกว่าจะต้องให้เหลือ 0 ครับ 
       แสดงว่าการประฎิบัติตามทางของหมอเขียว มีผลได้อย่างชัดเจนเลยครับ ผมมั่นใจและแน่ใจที่สุดจะไม่ต้องให้แฟนผมไปให้ยาเคมีอีกแน่นอนครับ 
        ขอขอบคุณหมอเขียว และทีมจิตอาสา มากๆเลยนะคร

กรณีตัวอย่างที่ ๒
แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด)
แชร์ประสบการณ์ผู้ป่วย SLE
อนุโมทนาคุณ Saengmaree Inphakthan ในการแชร์ประสบการณ์ในครั้ง
นี้ค่ะ

 
        Saengmaree Inphakthan ปฏิบัติ เป็นประจำค่ะ 
ปั่นคลอโรฟิลล์ดื่มทุกวัน ตอนนี้ดื่มกันทั้งบ้าน สุขภาพดีขึ้นจริงๆ ลูกชายป่วยเป็น SLE ถ้าวันไหนเขารู้สึกเหนื่อย เจ็บขา เขาจะอยู่บ้าน แช่มือแช่เท้า พอกบริเวณที่เจ็บ บ่ายก็ไป รร. ได้...
        ซึ่งสมัยก่อนเขาจะเจ็บเดินไม่ได้หลายวัน ต้องเพิ่มยาตลอด..ตั้งแต่ไปเข้าค่ายที่สวนป่านาบุญมา เขาดูแลตัวเองเป็น..
        ขอบคุณความรู้ดีที่หมอเขียวให้นะคะ..เจริญธรรมสำนึกดี ค่ะ



กรณีตัวอย่างที่ ๓
แชร์ประสบการณ์การดูแลสุขภาพแบบแพทย์วิถีธรรมกับดรค SLE และรูมาตอยด์
อนุโมธนาบุญกับคุณ สุพัตรา ผ่องใส ในการแชร์ประสบการณ์ในครั้งนี้


 ท้องที่เคยบวมแบบ 3 ปีกว่า ปรกติ  มันเป็นอะไรที่ทึ่งมาก 5 วันคือทำให้หนูหายจริง ๆ จากที่หนูทรมานมา 3 ปีกว่า
สัมภาษณ์
ใบเตย:  ชื่อใบเตย น่ะค่ะ เป็น SLE มา 3 ปีกว่าแล้วค่ะก็ตอนเริ่มแรกที่เป็นก็คือ หมอบอกว่าถ้ามาช้าอีก 10 นาที ก็คือไม่รอดแล้ว ก็รักษาด้วยยาของหมอ ทานตามหมอ หมอจ่ายยามาเท่าไหร่ก็ทานตามที่หมอบอกตลอด แต่อาการก็แย่ลงเรื่อย ๆ 
      แล้วก็เมื่อช่วงวันที่ 8 เดือนกุมภาที่มันหนาวมาก ๆ ตอนนั้นก็คือทรุดแล้ว แบบแขนขาไม่มีแรง เกร็งไปหมดอ่ะค่ะ ตัวแข็งไปหมดแล้วไปหาหมอหมอก็เพิ่มสเตียรอยให้กิน คาบละ 8 เม็ด เช้า กลางวัน เย็นอ่ะค่ะ แล้วก็มียาอื่น ๆ อีก คือ มื้อหนึ่งกินยาประมาณ 20 กว่าเม็ด ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ก็ยังเดินไม่ได้เหมือนเดิมอ่ะค่ะ 
      ตอนนี้หายใจไม่ออกแล้ว มันแน่น รู้เลยว่า การที่เราอยากมีลมหายใจอยู่มันเป็นยังไง แบบทำยังไงก็ได้ขอให้หายใจเข้ามาเฮือกหนึ่งก็ยังดีค่ะ ก็คือสั่งแม่เอาไว้หมดแล้วว่า ถ้าเกิดไปหาหมอคราวนี้ถ้าหนูไม่ไหว หนูสู้ไม่ไหว ไม่ต้องให้หมอเจาะ ไม่ต้องให้หมอช่วยแล้ว ก็คือสั่งไว้หมดแล้ว แล้วพอดีแม่ก็เสริทในเนตอ่ะค่ะ แล้วเห็นเกี่ยวกับหมอเขียวเนี๊ยะล่ะค่ะ หนูไม่เคยรู้จักมาก่อน แม่ก็เลยพอไปหาหมอคราวที่แล้วหมอสั่งให้ลงเคมีแล้วอ่ะค่ะ กลัวค่ะ เพราะว่ายาที่ทานมันเอาโรคไม่อยู่แล้วอ่ะค่ะ ให้คีโมมา 2 ครั้ง มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยค่ะ
ตอนที่หนูทรุด คือ แขนขา มันอ่อนแรง ผื่นขึ้นทั้งตัว แต่มันไม่ได้คันน่ะค่ะ มันปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนน้ำร้อนลวกอย่างนี้อ่ะค่ะ แต่มันจะอยู่ข้างใน และก็กระดูกมันจะปวด แต่มันไม่ได้ปวดกระดูกมันจะปวดอยู่ข้างในเลยอ่ะค่ะ แล้วท้องก็จะบวม คือ 3 ปีที่เป็นมาคือทานยาระบายตลอด เพระว่ามันถ่ายเองไม่ได้ ตัวคือบวมหมด ทานอะไรไปก็จะอาเจียนตลอด เพราะว่าอาหารมันไม่ย่อย แล้วมันก็จะแน่นอยู่ที่ท้องเราเนี้ยะแหละค่ะ แต่พอมาเข้าค่ายครั้งแรก ตอนนั้นให้คีโมแล้วแล้ว 2 ครั้งน่ะค่ะ มันปวดแสบปวดร้อนมาก มันจะปวดอธิบายไม่ถูก มันทรมาณมาก จนไม่อยากให้คีโมแล้ว กลับไปแม่ก็เลย ส่งมาค่ายนี้

พิธีกร : เป็น SLE แต่ทำไมต้องให้คีโมค่ะ
ใบเตย:เค้าบอกว่ายาที่หนูทาน มันกดภูมิหนูไม่อยู่แล้ว ก็เลยต้องให้เป็นคีโม
 พิธีกร : ให้คีโมไปฆ่าเซลล์อย่างนี้ใช่ไหมค่ะ
ใบเตย: ใช่ค่ะ  ก็มาเข้าค่ายครั้งแรกที่มาคราวที่แล้วน่ะค่ะ ค่าย 5 วันเนี๋ยะละค่ะ วันแรกมาขายังงอไม่ได้ ขามันยกไม่ได้ มันไม่มีแรง เส้นมันก็ตึง ท้องก็คือบวม หน้าบวมแดง วันแรกมาทานอาหารแล้วก็ ทานน้ำสมุนไพรอ่ะค่ะ เข้าห้องน้ำประมาณ 5 ครั้ง เหมือนกันระบายออกมาค่ะ แล้วก็อาเจียนประมาณ 4 -5 ครั้ง แต่ว่าทั้งถ่ายทั้งอาเจียนไม่เหนื่อย แต่ท้องยุบลงอย่างเห็นได้ชัด วันที่ 2 หนูเดินได้ ด้วยความที่เราหิว รีบวิ่งไปตักข้าว แล้วเพื่อนเค้าทักว่าเดินได้วิ่งได้ ก็ร้องไห้โทรไปหาแม่ แล้ววันที่ 3 หนูทำดีท็อกซ์ วันแรกกับวันที่ 2 ยังไม่ได้ทำ วันที่สามทำ คือ ท้องที่เคยบวมมา 3 ปีกว่า มันปรกติ มันเป็นอะไรที่ทึ่งมาก ร้องไห้โทรไปบอกแม่ 5 วันคือ ทำให้หนูหายจริง ๆ จากที่หนูทรมาณมา 3 ปีกว่า หลังจากกลับจากค่าย ก็กลับไปปฏิบัติตามแต่ก็ได้ไม่ครบทุกข้อ แต่ก็คือ เมื่อวันที่ 28 ไปหาหมอนัดลงคีโมเข็มที่ 3 ผลปรากฏว่าจากที่ไม่เคยมีเลือด เลือดต่ำตลอด หมอยังทึ่ง หมอบอกว่าทุกอย่างดีหมด ดีทุกอย่าง ความดัน เม็ดเลือด บวมแล้วก็ภาวะตอนแรกจะลงที่ไตแล้ว มีโปรตีนรั่ว แต่คือวันที่ 28ไม่มีอะไรเลย

พิธีกร : ก็แสดงว่าได้ไปตรวจวันที่ 28 ก่อนจะมาค่าย ฉะนั้นตอนนี้ก็จะรักษาแบบผสมผสานควบคู่ไป หรืออย่างไรค่ะ ถึงวันนี้แล้ว
ใบเตย หนูยังไม่ได้ทานยาเลยค่ะ กลับไปก็ไม่ได้ทานยาหมอ แต่ว่าสเตียรอยด์มันลดทันทีไม่ได้ แต่ก็ยังทานสเตียรอยด์อยู่ตัวหนึ่ง คือหมอก็ยังนัดไปอีกให้ครบ 6 เข็ม


พิธีกร :ก็ถือเป็นการรักษาไป 2 แบบ อยากแบ่งปันอะไรพี่น้องฝากทิ้งท้ายค่ะ

ใบเตย : สำหรับคนที่ป่วย แล้วมาอยู่ค่ายนี้ คิดว่าต้องมีปาฏิหารเกิดขึ้นค่ะ สำหรับคนที่ป่วย ถ้าปฏิบัติตามจริง ๆ ไม่ต้องได้ครบถึง 9 ข้อ หนูก็ได้ไม่ครบ 9 ข้อ แต่มันปาฏิหารย์เกิดขึ้นจริง ๆ ค่ะ อยากให้กลับไปที่บ้านแค่ปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร ดีท็อกซ์ ทานน้ำสมุนไพร
มันช่วยได้จริง ๆ ไม่ได้หายป่วยแบบทีเดียว แต่ก็ดีขึ้นไม่ต้องทานยาของหมอ ไม่ต้องทานเคมี มันก็ช่วยให้สุขภาพดีกว่าเดิมน่ะค่ะ






กรณีตัวอย่างที่ ๔
 แชร์ประสบการณ์ผู้ป่วย SLE  ไตวาย ความดันโลหิตสูง
และนิ่วในท่อไต
อนุโมทนาบุญกับคุณคุณฐิตาภา พรรณนารักษ์  ในการบำเพ็ญบุญครั้งนี้


 https://www.youtube.com/watch?v=s_EUtA-M5Hg&index=2&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R

คุณฐิตาภา พรรณนารักษ์ จากคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
มาค่ายครั้งแรกเป็นผู้ป่วยหนักด้วยโรค SLE ติดตามด้วยไตวาย ความดันโลหิตสูง และนิ่วในท่อไต ไตวายเพราะทานยาวันละ ๒๕ เม็ด และเข้าเคมีร่วมด้วยเดือนละครั้ง แอดมิทที่ศรีนครินทร์ รู้จักย่านางจากแฟน ที่เดินไปเจอโต๊ะพยาบาลที่ตั้งโต๊ะที่ศรีนครินทร์ เป็นย่านางเล่มเขียวเล่มแรกและถอดรหัสสุขภาพเล่มแรก ๒ เล่มนี้ราคาไม่ถึงร้อยแต่สามารถให้ชีวิตใหม่กับดิฉันได้ แต่บุญยังไม่ถึง ยังไม่ศึกษา แฟนซื้อมาแล้วก้อวางอยู่นั่นแหละที่หัวที่นอน ก้อป่วยๆอยู่อย่างนั้นจนร่างกายจะรับไม่ไหว ทีนีก้อลองมาศึกษาดู และไปรู้จักคลื่นวิทยุของ

ชุมชนวัดสวนธรรมของป๋าติ้ว สามีเป็นคนเอามาให้ ขอให้เปิดใจหน่อย อย่าเอาแต่ยาหมอ เพราะทางหมอก้อแนะว่ากินได้อย่างเดียวคือ ยาของหมอ ไม่ให้กินอย่างอื่นสักอย่าง ให้กินแต่ยาหมอ ตัวเราก้อเชื่อเพราะอยากรอด ที่นี้มันย่ำแย่ๆ โอ๊ยยังไงก้อจะตายแล้ว ยังไงก้อต้องขอลองย่านาง พอนึกอย่างนี้ก้อบอกสามีให้ไปทำให้กิน พอกินแก้วแรกเท่านั้นรู้สึกว่าเกิดอาการที่ดีขึ้นกับร่างกาย คือ กินเสร็จปั๊บปวดท้องเข้าห้องน้ำ และจากที่ไม่ถ่ายมาประมาณ ๗-๘ วัน เข้าเคมีมาแล้วไม่ยอมขับถ่ายตามปกติ กินปุ๊บเข้าไปเหมือนเด็ก เราเหมือนเด็กที่เค้าอะไรล่ะ...ที่เค้าพรุออกมาเลย ที่นี้มันสบายโล่งแล้วเริ่มมีพลังชีวิต เริ่มไม่เหนื่อยแล้ว เอ้าลองอีกทีสิ ลองทั้งวันวันนั้น แล้วรู้สึกพลังชีวิตเราขึ้นมา มีแรงที่จะพูด จากที่เดินไม่ได้ต้องให้สามีดูแลทุกอย่าง ทำทุกอย่างแทนเราหมดแม้แต่การเข้า ห้องน้ำ.... ที่นี้ก้อเริ่มกินทุกวัน พอได้ ๓ วันก้อเริ่มทำกับข้าว แฟนก้อดุว่าอย่าเพิ่งมาทำ แต่ตัวเองนอนมา ๓ ปีแล้ว คือ ไม่เห็นโลกภายนอกเลย ... 
           จากนั้นก้อศึกษามาเรื่อยๆ กินมาเรื่อยๆ พลังชีวิตก้อเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทีนี่มันก้อนานมาพอสมควรแล้วและเริ่มมารู้จักคำว่า 
ดีท๊อกซ์ เพราะฟังจากคลื่นวิทยุของป๋าติ้วนี้แหละ พอถึงเวลาบ่ายโมงจะไม่ไปไหน จะรอฟังว่า อาจารย์หมอเขียว จะพูดอะไร จะปะติดปะต่อจากที่ได้ฟังมาปฏิบัติด้วยตัวเอง อย่างกัวซาก้อปฏิบัติเข้าผิดๆถูกๆ ทำไปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเทปเปิดแค่ชั่วโมงเดียว แล้ว
การดีท๊อกซ์ก้อเหมือนกัน แต่ก่อนใช้น้ำอุ่นไม่รู้เรื่อง พอดีลูกสาวเค้ากำลังเรียนแพทย์ปี ๕ อยู่ เค้ามาเห็นแม่และบอกว่าการทำน้ำอุ่นไม่ดีเพราะผนังลำไสมีผล เลยหันมาใช้น้ำเย็น
             ที่นี้พอได้ประมาณอีก ๕-๖ เดือน ได้รู้จักพี่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งและมาที่นี่ เลยแนะนำว่าอยากไปไหม พอดีเขาจะส่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปทำการศึกษาเพื่อจะนำไปใช้ที่โรงพยาบาล ก้อเลยติดรถมาด้วย เป็นบุญมากมาถึงนี่ มานี่ ๓ วัน เริ่มได้ศึกษาจากทฤษฎีที่อาจารย์หมอท่านให้ เป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เริ่มเชื่อ เพราะปกติตัวเองเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ 

            พอเริ่มเชื่อและศรัทธาที่มาจากย่านางที่ทำให้ตัวเองมีพลังชีวิตขึ้น...เออเชื่อศรัทธามาก ๓ วันไปปรึกษากับ อาจารย์ บอกว่าขอทิ้งยาทั้งหมดได้ไหม หักดิบเลย อาจารย์ถามว่า SLE กินยาวันละกี่เม็ด... พาริสเตอโลน ๔ เม็ด และอย่างอื่นด้วยรวมแล้ว ๑๘ เม็ด จาก ๒๕ เม็ดเหลือ ๑๘ เม็ด และเข้าเคมีจากเดือนละครั้งเป็น ๓ เดือนครั้ง หมอบอกว่าโรคนี้มันทรมาน มันปวด เอาเป็นอย่างละครึ่งได้ไหม ตัวเองมานึกอีกทีเหลืออีก ๔ วันจะปิดค่าย ถ้าไปถึงบ้านแล้วไม่กล้าแน่นอน กลัวตายค่ะ 
            ยอมรับว่ากลัวตาย ยังไม่อยากตายจากลูกจากสามี ก้อเลยหักดิบเลยแล้วกันในวันนั้น ทิ้งไปหมดเลยค่ะ แต่จากทฤษฎีที่เราศึกษามาและอาจารย์พูดตลอดว่า น้ำพระพุทธเจ้า คือ สิ่งที่เป็นยารักษาโรคดีที่สุด... วันนั้นเริ่มดีท๊อกซ์ จากวันละ ๒ ครั้งเป็น ๔ เพราะได้ปรึกษากับอาจารย์หมอแล้ว ว่าดีท๊อกซ์เยอะๆ แล้วน้ำปัสสาวะก้อกินเลย มีอาการปวดนิดๆก้อกินๆๆ วันแรกกินน้ำฉี่ประมาณ ๔ แก้ว อาการปวดแทบไม่มีเลย อาการจากหักดิบยาก้อไม่มีเลย ลูกก้อพะว้าพะวง น้องน้ำตาลมาด้วย แม่ เอาดีเหรอ เอาดีเหรอ... ทำไปทำมาครบคอร์สสบายตัว ตอนมาหน้าบวมๆเพราะไตวาย เตรียมจะฟอกแล้วเพราะทุกอย่างไม่ โอเคแล้ว มันหมดทุกอย่าง ... ที่นี้รู้สึกสบายตัวมาก แล้ววันกลับ กราบลาอาจารย์หมอเขียว กราบที่เท้าท่านเลย ถ้าไม่มีท่านจะไม่มีวันนี้ แล้ววันนั้นสัญญากับอาจารย์หมอ ว่า จะนำวิชาชีพที่ได้ไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ก้อเลยไปถึงบ้านแล้วนึกดู ตัวเองมีอาชีพแม่เป็นแม่ค้า แล้วพอตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอาชีพให้ตัวเองเลยเพราะนอนอยู่ ๓ ปี แล้วจะทำยังไงให้เรามีชีวิตอยู่ได้ ก้อเลย...อ้อก้อลองทำน้ำย่านางดูซิ คนเรียกร้อง เธอไปทำอะไรมา หน้าก้อยุบ แล้วร่างกายมาตลาดอะไรก้อมาได้เหมือนคนปกติ ก้อเลยลองทำ ทีแรกก้อก้อว่าจะทำแจกจ่ายให้เป็นวิทยาทาน คือ เราสัญญาในใจแล้วว่าจะนำย่านางนี้ไปเผยแพร่ ที่นี้กลายเป็นสัมมาชีพแล้วค่ะ ทำรายได้ ลูกสาวน้องน้ำตาลก้อช่วยขาย...พ่อแม่... เลยโทรฯหาสามีที่ทำงาอยู่กรุงเทพฯให้มาช่วยขายย่านาง เพราะเป็นอาชีพได้แล้ว แล้วก้อเริ่มทำ แล้วเดี๋ยวนี้ก้อเป็นกิจการในครัวเรือน ได้ด้วย
การใช้ปัสสาวะทำดีท๊อกซ์ไม่ค่อยถูกกับตัวเอง ใช้ดื่มมากกว่า
ขณะนี้ย่านางทำให้ชีวิตดีขึน ได้ชีวิตใหม่ เพราะไปศรีนครินทร์ด้วยกัน ๕ คน เรียบร้อยแล้ว ๓ คน อีกหนึ่งคนก้อยังครึ่งผีครึงคน ส่วนตัวเองเป็นคนแล้ว เป็นคนที่มีสัมมาชีพด้วย ขณะนี้เป็นเจ้าเดียวที่ขายน้ำย่านางใน คำเขื่อนแก้ว




ลิงค์ยูทูปที่เกี่ยวข้องแพทย์วิถีธรรม กับ SLE

https://www.youtube.com/watch?v=c9kmJ95tBxM&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R




 https://www.youtube.com/watch?v=_OtyhGLUxOA&index=3&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R



 https://www.youtube.com/watch?v=M4cLnkq6tKI&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R&index=4




 https://www.youtube.com/watch?v=DQ-586osARg&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R&index=5



 https://www.youtube.com/watch?v=ba0Xf2yEaO0&index=8&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R


https://www.youtube.com/watch?v=8ijiwzd58SQ&list=PLbzpGbAUyJqkqckGBJIfap-5tyM8yAD4R&index=11


 สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารเนื้อหาสาระ
แพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด) ได้ที่



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น