วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โรค SLE ไตวาย ความดันโลหิตสูง และนิ่วในท่อไต

แพทย์ทางเลือกวิถีธรรม (ยา ๙เม็ด)
แชร์ประสบการณ์ผู้ป่วย SLE  ไตวาย ความดันโลหิตสูง

และนิ่วในท่อไต
อนุโมทนาบุญกับคุณคุณฐิตาภา พรรณนารักษ์  ในการบำเพ็ญบุญครั้งนี้




คุณฐิตาภา พรรณนารักษ์ จากคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
มาค่ายครั้งแรกเป็นผู้ป่วยหนักด้วยโรค SLE ติดตามด้วยไตวาย ความดันโลหิตสูง และนิ่วในท่อไต ไตวายเพราะทานยาวันละ ๒๕ เม็ด และเข้าเคมีร่วมด้วยเดือนละครั้ง แอดมิทที่ศรีนครินทร์ รู้จักย่านางจากแฟน ที่เดินไปเจอโต๊ะพยาบาลที่ตั้งโต๊ะที่ศรีนครินทร์ เป็นย่านางเล่มเขียวเล่มแรกและถอดรหัสสุขภาพเล่มแรก ๒ เล่มนี้ราคาไม่ถึงร้อยแต่สามารถให้ชีวิตใหม่กับดิฉันได้ แต่บุญยังไม่ถึง ยังไม่ศึกษา แฟนซื้อมาแล้วก้อวางอยู่นั่นแหละที่หัวที่นอน ก้อป่วยๆอยู่อย่างนั้นจนร่างกายจะรับไม่ไหว ทีนีก้อลองมาศึกษาดู และไปรู้จักคลื่นวิทยุของ

ชุมชนวัดสวนธรรมของป๋าติ้ว สามีเป็นคนเอามาให้ ขอให้เปิดใจหน่อย อย่าเอาแต่ยาหมอ เพราะทางหมอก้อแนะว่ากินได้อย่างเดียวคือ ยาของหมอ ไม่ให้กินอย่างอื่นสักอย่าง ให้กินแต่ยาหมอ ตัวเราก้อเชื่อเพราะอยากรอด ที่นี้มันย่ำแย่ๆ โอ๊ยยังไงก้อจะตายแล้ว ยังไงก้อต้องขอลองย่านาง พอนึกอย่างนี้ก้อบอกสามีให้ไปทำให้กิน พอกินแก้วแรกเท่านั้นรู้สึกว่าเกิดอาการที่ดีขึ้นกับร่างกาย คือ กินเสร็จปั๊บปวดท้องเข้าห้องน้ำ และจากที่ไม่ถ่ายมาประมาณ ๗-๘ วัน เข้าเคมีมาแล้วไม่ยอมขับถ่ายตามปกติ กินปุ๊บเข้าไปเหมือนเด็ก เราเหมือนเด็กที่เค้าอะไรล่ะ...ที่เค้าพรุออกมาเลย ที่นี้มันสบายโล่งแล้วเริ่มมีพลังชีวิต เริ่มไม่เหนื่อยแล้ว เอ้าลองอีกทีสิ ลองทั้งวันวันนั้น แล้วรู้สึกพลังชีวิตเราขึ้นมา มีแรงที่จะพูด จากที่เดินไม่ได้ต้องให้สามีดูแลทุกอย่าง ทำทุกอย่างแทนเราหมดแม้แต่การเข้า ห้องน้ำ.... ที่นี้ก้อเริ่มกินทุกวัน พอได้ ๓ วันก้อเริ่มทำกับข้าว แฟนก้อดุว่าอย่าเพิ่งมาทำ แต่ตัวเองนอนมา ๓ ปีแล้ว คือ ไม่เห็นโลกภายนอกเลย ... 
           จากนั้นก้อศึกษามาเรื่อยๆ กินมาเรื่อยๆ พลังชีวิตก้อเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทีนี่มันก้อนานมาพอสมควรแล้วและเริ่มมารู้จักคำว่า 
ดีท๊อกซ์ เพราะฟังจากคลื่นวิทยุของป๋าติ้วนี้แหละ พอถึงเวลาบ่ายโมงจะไม่ไปไหน จะรอฟังว่า อาจารย์หมอเขียว จะพูดอะไร จะปะติดปะต่อจากที่ได้ฟังมาปฏิบัติด้วยตัวเอง อย่างกัวซาก้อปฏิบัติเข้าผิดๆถูกๆ ทำไปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเทปเปิดแค่ชั่วโมงเดียว แล้ว
การดีท๊อกซ์ก้อเหมือนกัน แต่ก่อนใช้น้ำอุ่นไม่รู้เรื่อง พอดีลูกสาวเค้ากำลังเรียนแพทย์ปี ๕ อยู่ เค้ามาเห็นแม่และบอกว่าการทำน้ำอุ่นไม่ดีเพราะผนังลำไสมีผล เลยหันมาใช้น้ำเย็น
             ที่นี้พอได้ประมาณอีก ๕-๖ เดือน ได้รู้จักพี่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งและมาที่นี่ เลยแนะนำว่าอยากไปไหม พอดีเขาจะส่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปทำการศึกษาเพื่อจะนำไปใช้ที่โรงพยาบาล ก้อเลยติดรถมาด้วย เป็นบุญมากมาถึงนี่ มานี่ ๓ วัน เริ่มได้ศึกษาจากทฤษฎีที่อาจารย์หมอท่านให้ เป็นวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เริ่มเชื่อ เพราะปกติตัวเองเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ 

            พอเริ่มเชื่อและศรัทธาที่มาจากย่านางที่ทำให้ตัวเองมีพลังชีวิตขึ้น...เออเชื่อศรัทธามาก ๓ วันไปปรึกษากับ อาจารย์ บอกว่าขอทิ้งยาทั้งหมดได้ไหม หักดิบเลย อาจารย์ถามว่า SLE กินยาวันละกี่เม็ด... พาริสเตอโลน ๔ เม็ด และอย่างอื่นด้วยรวมแล้ว ๑๘ เม็ด จาก ๒๕ เม็ดเหลือ ๑๘ เม็ด และเข้าเคมีจากเดือนละครั้งเป็น ๓ เดือนครั้ง หมอบอกว่าโรคนี้มันทรมาน มันปวด เอาเป็นอย่างละครึ่งได้ไหม ตัวเองมานึกอีกทีเหลืออีก ๔ วันจะปิดค่าย ถ้าไปถึงบ้านแล้วไม่กล้าแน่นอน กลัวตายค่ะ 
            ยอมรับว่ากลัวตาย ยังไม่อยากตายจากลูกจากสามี ก้อเลยหักดิบเลยแล้วกันในวันนั้น ทิ้งไปหมดเลยค่ะ แต่จากทฤษฎีที่เราศึกษามาและอาจารย์พูดตลอดว่า น้ำพระพุทธเจ้า คือ สิ่งที่เป็นยารักษาโรคดีที่สุด... วันนั้นเริ่มดีท๊อกซ์ จากวันละ ๒ ครั้งเป็น ๔ เพราะได้ปรึกษากับอาจารย์หมอแล้ว ว่าดีท๊อกซ์เยอะๆ แล้วน้ำปัสสาวะก้อกินเลย มีอาการปวดนิดๆก้อกินๆๆ วันแรกกินน้ำฉี่ประมาณ ๔ แก้ว อาการปวดแทบไม่มีเลย อาการจากหักดิบยาก้อไม่มีเลย ลูกก้อพะว้าพะวง น้องน้ำตาลมาด้วย แม่ เอาดีเหรอ เอาดีเหรอ... ทำไปทำมาครบคอร์สสบายตัว ตอนมาหน้าบวมๆเพราะไตวาย เตรียมจะฟอกแล้วเพราะทุกอย่างไม่ โอเคแล้ว มันหมดทุกอย่าง ... ที่นี้รู้สึกสบายตัวมาก แล้ววันกลับ กราบลาอาจารย์หมอเขียว กราบที่เท้าท่านเลย ถ้าไม่มีท่านจะไม่มีวันนี้ แล้ววันนั้นสัญญากับอาจารย์หมอ ว่า จะนำวิชาชีพที่ได้ไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ก้อเลยไปถึงบ้านแล้วนึกดู ตัวเองมีอาชีพแม่เป็นแม่ค้า แล้วพอตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอาชีพให้ตัวเองเลยเพราะนอนอยู่ ๓ ปี แล้วจะทำยังไงให้เรามีชีวิตอยู่ได้ ก้อเลย...อ้อก้อลองทำน้ำย่านางดูซิ คนเรียกร้อง เธอไปทำอะไรมา หน้าก้อยุบ แล้วร่างกายมาตลาดอะไรก้อมาได้เหมือนคนปกติ ก้อเลยลองทำ ทีแรกก้อก้อว่าจะทำแจกจ่ายให้เป็นวิทยาทาน คือ เราสัญญาในใจแล้วว่าจะนำย่านางนี้ไปเผยแพร่ ที่นี้กลายเป็นสัมมาชีพแล้วค่ะ ทำรายได้ ลูกสาวน้องน้ำตาลก้อช่วยขาย...พ่อแม่... เลยโทรฯหาสามีที่ทำงาอยู่กรุงเทพฯให้มาช่วยขายย่านาง เพราะเป็นอาชีพได้แล้ว แล้วก้อเริ่มทำ แล้วเดี๋ยวนี้ก้อเป็นกิจการในครัวเรือน ได้ด้วย
การใช้ปัสสาวะทำดีท๊อกซ์ไม่ค่อยถูกกับตัวเอง ใช้ดื่มมากกว่า
ขณะนี้ย่านางทำให้ชีวิตดีขึน ได้ชีวิตใหม่ เพราะไปศรีนครินทร์ด้วยกัน ๕ คน เรียบร้อยแล้ว ๓ คน อีกหนึ่งคนก้อยังครึ่งผีครึงคน ส่วนตัวเองเป็นคนแล้ว เป็นคนที่มีสัมมาชีพด้วย ขณะนี้เป็นเจ้าเดียวที่ขายน้ำย่านางใน คำเขื่อนแก้ว


คลิ๊กฟังเนื้อหาได้ที่เวป  http://www.youtube.com/watch?v=s_EUtA-M5Hg



                  สนใจติดตามข้อมูลข่าวสารเนื้อหาสาระแพทย์วิถีธรรม (ยา ๙ เม็ด) ได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น